













How to Instagram DNA :
สูตรลับ A-Z สร้างแบรนด์ให้ปัง บน IG
A : Analytics : การวิเคราะห์
- ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น ยอดการเข้าถึง การมีส่วนร่วม อัตราการเติบโต
- ใช้ Instagram Insights เพื่อดูพฤติกรรมผู้ติดตาม
- วัดผลคะแนนของโพสต์ และ Reels ด้วยคะแนน : Like, Comment, Shared, Saved
B : Bio optimization : การปรับแต่งประวัติ
- เขียนประวัติให้น่าสนใจ กระชับ ตรงประเด็น
- ใส่ลิงก์และข้อมูล ช่องทางการติดต่อ
- ใช้ emoji เพื่อให้ดูน่าสนใจ
C : Captions การเขียนแคปชั่น
- เขียนเนื้อหาที่ดึงดูด มีเรื่องราว
- ใช้ภาษาที่เข้าถึงง่าย
- ใช้ Keyword ที่ AI จับได้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึง
D : Daily Posting : การโพสต์สม่ำเสมอ
- วางแผนการโพสต์ประจำวัน
- รักษาความสม่ำเสมอในการโพสต์
- สร้างตารางการโพสต์ล่วงหน้า
E : Engage : การมีส่วนร่วม
- ตอบคอมเมนต์ ภายใน 24 ชั่วโมง
- ใส่เครื่องมือการตอบโต้ในสตอรี่ เช่น Poll, Question, Slider
- ติดโพลล์ ในโพสต์ หรือ Reels
F : Follow up : การติดตามผล
- ติดตามข้อความและคอมเมนต์
- ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
- ตั้งค่าข้อความอัตโนมัติ ใน DM
G : Geotags : การติดแท็กสถานที่
- ใช้ Location tag ในโพสต์
- เพิ่มการมองเห็นในพื้นที่เฉพาะ
- ดึงดูดผู้ติดตามในพื้นที่
H : Hashtags : แฮชแท็ก
- ใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
- ผสมแฮชแท็กยอดนิยมกับเฉพาะกลุ่ม
- ไม่ใช้แฮชแท็กมากเกินไป (10 แท็กต่อโพสต์)
I : Instagram : Reels
- สร้าง Reels สั้นๆ ที่น่าสนใจ
- ใช้เพลงและเทรนด์ยอดนิยม
- เน้นเนื้อหาสร้างสรรค์ และให้ความบันเทิง
J : Join Community : เข้าร่วมกลุ่ม
- สร้างช่อง Broadcast เพื่อสร้างแฟนคลับ หรือ กลุ่มเฉพาะสำหรับผู้ติดตาม
- ใช้ Feature ในช่อง Broadcast เพื่อการเพิ่ม การตอบโต้ในกลุ่ม
- วางแผนการ Broadcast รายสัปดาห์
K : Keep Quality : รักษาคุณภาพ
- โพสต์เนื้อหาที่มีคุณภาพ ช่วยให้การเข้าถึงดีขึ้น
- เน้นความคมชัด ของรูปภาพและวิดีโอ
- ใช้กล้องหลัง มากกว่ากล้องหน้า เพื่อความคมชัด
L : Live sessions : ไลฟ์สด
- จัดไลฟ์สด พูดคุยกับผู้ติดตาม
- แชร์เบื้องหลัง หรือความรู้
- สร้างความใกล้ชิด กับผู้ติดตาม
M : Multimedia Mix : ผสมผสานสื่อ
- ใช้ทั้งภาพ, วิดีโอ, Reels, Stories
- สร้างความหลากหลายของเนื้อหา ตาม Content Pillars
- ออกนอกกรอบ ลองกาไอเดียใหม่ๆ ในการทำคอนเทนต์ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน
N : Niche Focus : เจาะกลุ่มเฉพาะ
- กำหนดความเป็นแบรนด์ของธุรกิจเราให้ชัดเจน
- สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- ทำคอนเทนต์แยกตามประเภทของลูกค้า
O : Optimize timing : เวลาที่เหมาะสม
- โพสต์ในช่วงเวลาที่ผู้ติดตามออนไลน์
- วิเคราะห์ช่วงเวลาที่มีส่วนร่วมสูง
- ปรับแผนตามพฤติกรรมผู้ติดตาม
P : Partner : พันธมิตร
- Collaboration กับเจ้าของแบรนด์ เพื่อทำ Personal Branding
- ทำ Collaboration กับครีเอเตอร์
- Repost Tag จากลูกค้า
Q : Questions : คำถาม
- สร้างโพสต์ถามความคิดเห็น
- ใช้ Poll ใน Stories
- กระตุ้นการแสดงความคิดเห็น
R : Respond : การตอบสนอง
- ตอบคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว
- ยิงแอดเมื่อการเข้าถึงดี ยิ่งดันส่งโพสต์
- ตอบ DM ภายใน 24 ชั่วโมง
S : Stories : สตอรี่
- โพสต์ Stories สม่ำเสมอ
- ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Stories
- แชร์เบื้องหลัง และชีวิตประจำวัน
T : Theme : ธีม
- สร้างฟีดที่สื่อสารความเป็นแบรนด์ของเรา
- ใช้โทนสีที่เข้ากัน เหมาะสมกับ CI
- รักษาความต่อเนื่องของสไตล์
U : User-generated : เนื้อหาจากผู้ใช้
- แชร์โพสต์จากผู้ติดตาม
- จัดแคมเปญให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วม
- Repost Stories จากลูกค้า
V : Visual Branding : แบรนด์ภาพ
- พัฒนาสไตล์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์
- ใช้โทนสีและฟอนต์ที่สอดคล้องกัน
- สร้างการจดจำผ่านภาพ
W : Write CTAs : เขียน Call-to-Action
- เขียนข้อความเชิญชวนที่ชัดเจน
- กระตุ้นให้เกิดการกระทำ
- ใช้ภาษาที่โน้มน้าวใจ
X : X-promote : โปรโมทข้าม Platform
- แชร์เนื้อหาไปยังโซเชียลอื่น
- เชื่อมโยงผู้ติดตามจากแพลตฟอร์มต่างๆ
- สร้างการรับรู้แบรนด์หลายช่องทาง
Y : Yearly planning : วางแผนรายปี
- สร้างปฏิทินเนื้อหาล่วงหน้า
- กำหนดเป้าหมายระยะยาว
- วางแผนแคมเปญสำคัญ
Z : Zero in target : เจาะกลุ่มเป้าหมาย
- รู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง
- สร้างเนื้อหาที่ตรงใจ
- วิเคราะห์และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง